สแตนเลส 304 / 304L: เจาะลึกเกรดที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก

สแตนเลส 304 คืออะไร?

สแตนเลส 304 คือโลหะผสมในกลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic) ที่มีส่วนประกอบหลักคือ โครเมียมประมาณ 18% และ นิกเกิลประมาณ 8% (จึงมีชื่อเล่นว่า "สแตนเลส 18/8") การมีโครเมียมในปริมาณสูงทำให้มันสามารถสร้างฟิล์มป้องกันสนิมบนพื้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม

คุณสมบัติเด่นของสแตนเลส 304:

• ทนทานการกัดกร่อนสูง: สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมทั่วไป, ความชื้น, และกรดอ่อนๆ ได้ดีเยี่ยม
• ขึ้นรูปและเชื่อมง่าย: มีความเหนียวสูง สามารถนำไปดัด, พับ, ปั๊มขึ้นรูป, และเชื่อมประกอบได้ง่าย
• ทนทานความร้อน: สามารถใช้งานในอุณหภูมิสูงได้ดี
• ถูกสุขลักษณะ: พื้นผิวเรียบ ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมเชื้อโรค จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา
• แม่เหล็กดูดไม่ติด: โดยปกติแล้วแม่เหล็กจะดูดไม่ติด (อาจดูดติดได้เล็กน้อยหลังผ่านการขึ้นรูปเย็น)

304 vs 304L: ตัว "L" สำคัญอย่างไร?

คุณอาจเคยเห็นสแตนเลสเกรด "304L" ซึ่งมีคุณสมบัติเกือบทุกอย่างเหมือนกับ 304 แต่มีความแตกต่างสำคัญเพียงข้อเดียว:

ตัวอักษร **"L"** ย่อมาจาก **"Low Carbon"** หมายความว่าสแตนเลส 304L มีปริมาณคาร์บอนที่ **ต่ำกว่า 0.03%** ซึ่งส่งผลดีอย่างยิ่งต่องานเชื่อม

• สรุปง่ายๆ: ถ้างานของคุณต้องมีการ **"เชื่อม"** ที่มีความหนาพอสมควร การเลือกใช้ **304L** จะช่วยป้องกันการเกิดการกัดกร่อนตามขอบตะเข็บแนวเชื่อม (Weld Decay) ทำให้รอยเชื่อมมีความแข็งแรงและทนทานในระยะยาวมากกว่า

การใช้งานของสแตนเลส 304 / 304L

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้เราพบเห็นสแตนเลส 304/304L ได้ในแทบทุกที่:

• เครื่องครัวและเครื่องใช้ในบ้าน: อ่างล้างจาน, หม้อ, กระทะ, ช้อนส้อม, โครงเครื่องใช้ไฟฟ้า
• อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม: ถังหมัก, ถังเก็บ, ท่อลำเลียง, อุปกรณ์แปรรูปอาหาร
• งานสถาปัตยกรรมและก่อสร้าง: ราวบันได, ราวกันตก, กรอบประตู-หน้าต่าง, งานหุ้มเสาและผนัง
• อุตสาหกรรมยานยนต์: ชิ้นส่วนท่อไอเสีย, อุปกรณ์ตกแต่ง
• อุปกรณ์ทางการแพทย์และโรงพยาบาล: โต๊ะผ่าตัด, ถาดเครื่องมือ, อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ