คู่มือเลือกซื้อแผ่นสแตนเลส: 2 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อให้ได้วัสดุที่ใช่ที่สุด

ขั้นตอนที่ 1: เลือก "เกรด" ให้ถูกกับสภาพแวดล้อม (304 vs 316)

หัวใจของการเลือกเกรดคือการประเมิน "ความท้าทาย" ที่แผ่นสแตนเลสของคุณต้องเผชิญ:

เลือกเกรด 304 / 304L (เกรดมาตรฐาน)

เหมาะสำหรับงานทั่วไปในร่มหรือในสภาพแวดล้อมปกติที่ไม่ต้องเจอกับสารเคมีรุนแรงหรือไอเกลือ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลาย

• ตัวอย่างงาน: เครื่องครัว, อุปกรณ์ในโรงงานอาหาร, ราวบันไดในอาคาร, งานตกแต่งภายใน

เลือกเกรด 316 / 316L (เกรดทนทานพิเศษ)

เหมาะสำหรับงานที่ต้อง "สู้" กับการกัดกร่อนขั้นสูง โดยเฉพาะจากคลอไรด์ (น้ำเค็ม, สารเคมี) เนื่องจากมีส่วนผสมของโมลิบดีนัม

• ตัวอย่างงาน: อุปกรณ์ทางทะเล, โครงสร้างติดชายฝั่ง, อุปกรณ์ในห้องแล็บ, เครื่องมือแพทย์

ขั้นตอนที่ 2: เลือก "ผิว (Finish)" ให้เหมาะกับการใช้งาน (No.1 vs 2B)

หลังจากเลือกเกรดได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกผิว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งความสวยงามและความแข็งแรง:

ผิว No.1 (รีดร้อน - Hot Rolled)

เป็นแผ่นสแตนเลสที่ผ่านกระบวนการรีดร้อน ทำให้มีผิวหน้าที่ **ด้านและไม่เรียบเนียน** แต่มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับงานที่ไม่เน้นความสวยงามของผิวหน้า แต่ต้องการความทนทานเป็นหลัก

• ตัวอย่างงาน: โครงสร้างเครื่องจักร, ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม, งานที่ต้องนำไปแปรรูปต่อ

ผิว 2B (รีดเย็น - Cold Rolled)

เป็นแผ่นสแตนเลสที่ผ่านกระบวนการรีดเย็น ทำให้มีผิวหน้าที่ **เรียบเนียนและกึ่งเงา** ดูสวยงามและสะอาดตา เหมาะสำหรับงานที่ต้องการทั้งความสวยงามและความทนทาน

• ตัวอย่างงาน: เครื่องครัว, อุปกรณ์ทางการแพทย์, งานตกแต่งสถาปัตยกรรม, ถังในโรงงานอาหาร