Table of Contents
- หัวใจของสแตนเลส: โครเมียม (Chromium)
- รู้จัก 5 ประเภทหลักของสแตนเลส
- 1. กลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic) - The All-Rounder
- 2. กลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic) - The Cost-Effective Choice
- 3. กลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic) - The Hard & Strong
- 4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex) - The Best of Both Worlds
- 5. กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก (Precipitation Hardening - PH)
- สรุป: ตารางช่วยเลือกใช้สแตนเลสให้เหมาะสม
- ยังไม่แน่ใจ? ให้เราช่วยเลือก
สแตนเลสคืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์: องค์ประกอบ 5 ประเภท และวิธีเลือกใช้
สแตนเลส (Stainless Steel) หรือเหล็กกล้าไร้สนิม คือหนึ่งในวัสดุที่หลากหลายและสำคัญที่สุดในโลกอุตสาหกรรม แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าอะไรที่ทำให้มันพิเศษกว่าเหล็กทั่วไป? และจะเลือกใช้สแตนเลสประเภทไหนให้เหมาะกับงานของคุณมากที่สุด? บทความนี้ Trinity Dynamic มีคำตอบทั้งหมด
หัวใจของสแตนเลส: โครเมียม (Chromium)
สิ่งที่ทำให้สแตนเลส "ไร้สนิม" คือการมีส่วนผสมของธาตุ **โครเมียม** อย่างน้อย 10.5% ซึ่งโครเมียมจะสร้างฟิล์มป้องกันบางๆ ที่มองไม่เห็น (เรียกว่า Chromium Oxide) ขึ้นมาเคลือบผิวเหล็กไว้ ฟิล์มนี้เองที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการกัดกร่อนได้อย่างน่าทึ่ง และสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อถูกขีดข่วน
รู้จัก 5 ประเภทหลักของสแตนเลส
เราสามารถแบ่งสแตนเลสออกเป็น 5 กลุ่มหลักตามโครงสร้างภายใน ซึ่งแต่ละกลุ่มมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
1. กลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic) - The All-Rounder
เป็นกลุ่มที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก (กว่า 70%) มีส่วนผสมของนิกเกิล ทำให้ แม่เหล็กดูดไม่ติด มีความสมดุลระหว่างความทนทาน, ความง่ายในการขึ้นรูป, และการทนการกัดกร่อนที่ดีเยี่ยม
- เกรดยอดนิยม: 304 (เกรดมาตรฐาน), 316 (ทนสารเคมี), 200 Series (ราคาประหยัด)
2. กลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic) - The Cost-Effective Choice
มีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้ แม่เหล็กดูดติด มีคุณสมบัติทนทานการกัดกร่อนได้ดี และที่สำคัญคือ ราคาประหยัด กว่ากลุ่มออสเทนนิติก
- เกรดยอดนิยม: 430 (งานตกแต่ง), 409 (ท่อไอเสีย)
3. กลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic) - The Hard & Strong
มีปริมาณคาร์บอนสูง ทำให้สามารถนำไป ชุบแข็ง (Heat Treatment) เพื่อเพิ่มความแข็งและความทนทานต่อการสึกหรอได้อย่างมหาศาล แต่จะทนการกัดกร่อนได้น้อยลง และ แม่เหล็กดูดติด
- เกรดยอดนิยม: 410, 420 (ทำมีด), 440C (แข็งที่สุด)
4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex) - The Best of Both Worlds
มีโครงสร้างผสมระหว่างออสเทนนิติกและเฟอร์ริติก ทำให้ได้คุณสมบัติเด่นคือ ทั้งแข็งแกร่งและทนทานการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม เหนือกว่ากลุ่ม 300 Series ทั่วไป
- เกรดยอดนิยม: 2205, 2507
5. กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก (Precipitation Hardening - PH)
เป็นกลุ่มที่มีความแข็งแรงสูงสุด สามารถเพิ่มความแข็งได้ด้วยกระบวนการทางความร้อน แต่ยังคงความสามารถในการทนการกัดกร่อนได้ดี
- เกรดยอดนิยม: 17-4PH (630)
สรุป: ตารางช่วยเลือกใช้สแตนเลสให้เหมาะสม
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ตารางด้านล่างนี้สรุปเกรดสแตนเลสที่แนะนำสำหรับลักษณะงานต่างๆ:
ลักษณะการใช้งาน | เกรดที่แนะนำ |
---|---|
งานทั่วไป: อุปกรณ์อาหาร, เครื่องดื่ม, งานตกแต่ง | 304, 430 |
งานในโรงงานเคมี / ติดทะเล: สัมผัสกรด, ด่าง, คลอไรด์ | 316, 2205, 2507 |
งานที่ต้องการความแข็งสูง: เครื่องมือตัด, ชิ้นส่วนรับแรง | 420, 440C, 17-4PH |
งานทนความร้อนสูง: ท่อไอเสีย, เตาเผา | 409, 310S |
ยังไม่แน่ใจ? ให้เราช่วยเลือก
การเลือกสแตนเลสที่ถูกต้องช่วยประหยัดต้นทุนและยืดอายุการใช้งาน ทีมฝ่ายขาย ของเราพร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้คุณได้วัสดุที่ดีที่สุด
ติดต่อทีมฝ่ายขาย
ผู้ดูแลระบบ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสแตนเลสและโลหะอุตสาหกรรม ทีมงาน Trinity Dynamic พร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจของคุณ