คู่มือบำรุงรักษาสแตนเลส: 5 Do & Don't เพื่อความสวยงามทนทานยาวนาน

Do: 5 ข้อที่ควรทำในการดูแลสแตนเลส

1. ทำความสะอาดเป็นประจำ:

   วิธีที่ดีที่สุดคือการล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาล้างจาน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งสนิทด้วยผ้านุ่ม การเช็ดให้แห้งสำคัญมากเพื่อป้องกันคราบน้ำ

2. เช็ดไปในทิศทางเดียวกันกับลายเส้น:

   หากสแตนเลสของคุณมีผิวแบบขัดลาย (Brushed Finish) ให้สังเกตลายเส้นและเช็ดไปในทิศทางเดียวกัน จะช่วยลดรอยขีดข่วนและทำให้ทำความสะอาดได้หมดจดยิ่งขึ้น

3. ใช้น้ำยาสำหรับสแตนเลสโดยเฉพาะ:

   สำหรับคราบฝังแน่น เช่น รอยนิ้วมือหรือคราบไขมัน สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดสแตนเลสโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมที่ช่วยขจัดคราบและเคลือบผิวไปในตัว

4. กำจัดคราบสนิมจากโลหะอื่นทันที:

   หากมีเศษเหล็กหรือฝุ่นจากเหล็กกล้าคาร์บอนมาเกาะบนผิวสแตนเลส มันจะเกิดสนิมและทำให้ดูเหมือนสแตนเลสเป็นสนิมเอง ให้รีบใช้ฟองน้ำ (ที่ไม่ใช่ฝอยเหล็ก) ขัดออกทันที

5. ทำการ Passivation หลังการเชื่อมหรือขัดหนัก:

   Passivation คือการใช้กรดอ่อนๆ (เช่น กรดซิตริก) ชะล้างผิวสแตนเลสเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและฟื้นฟูชั้นฟิล์มป้องกันให้สมบูรณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะหลังงานเชื่อมหรือขัดที่อาจทำลายชั้นฟิล์มเดิมไป

Don't: 5 ข้อห้ามเด็ดขาดในการใช้สแตนเลส

1. ห้ามใช้ฝอยเหล็กหรือแปรงลวดเหล็ก:

   นี่คือข้อห้ามที่สำคัญที่สุด เพราะเศษเหล็กเล็กๆ จะฝังเข้าไปในผิวสแตนเลสและทำให้เกิดสนิมอย่างรวดเร็ว ให้ใช้ฟองน้ำ, แผ่นใยขัดสังเคราะห์ หรือแปรงสแตนเลสเท่านั้น

2. ห้ามใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของคลอไรด์:

   หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอไรด์ (Chloride) เช่น น้ำยาฟอกขาว หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ เพราะคลอไรด์คือศัตรูตัวฉกาจที่ทำลายชั้นฟิล์มป้องกันของสแตนเลส

3. อย่าปล่อยให้คราบอาหารหรือสารเคมีเกาะติดนานๆ:

   โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือเป็นกรด ควรล้างทำความสะอาดทันทีหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนแบบถาวร

4. อย่าใช้น้ำกระด้างในการล้างแล้วปล่อยให้แห้งเอง:

   น้ำที่มีแร่ธาตุสูง (น้ำกระด้าง) จะทิ้งคราบหินปูนสีขาวไว้บนผิวเมื่อแห้ง ควรเช็ดให้แห้งเสมอ

5. ห้ามวางหรือลากภาชนะเหล็กบนผิวสแตนเลส:

   เพื่อป้องกันการขีดข่วนและการปนเปื้อนจากเศษเหล็กที่อาจทำให้เกิดสนิม