ประเภทของสแตนเลส: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับ 5 กลุ่มหลัก

1. กลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic) - The Most Common

เป็นกลุ่มที่นิยมใช้และพบเห็นได้บ่อยที่สุด (กว่า 70% ของสแตนเลสในโลก) มีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิลเป็นหลัก ทำให้มีคุณสมบัติสมดุลยอดเยี่ยม ทั้งการทนทานต่อการกัดกร่อน, ความง่ายในการขึ้นรูป, และ แม่เหล็กดูดไม่ติด

• เกรดยอดนิยม: 304 (เกรดอเนกประสงค์ "18/8"), 316 (ทนสารเคมี), 200 Series (ราคาประหยัด)
• การใช้งานหลัก: เครื่องครัว, อุปกรณ์ในโรงงานอาหารและยา, งานสถาปัตยกรรม, ถังบรรจุภัณฑ์

2. กลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic) - The Magnetic & Affordable

มีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลักและมีคาร์บอนต่ำ ทำให้ แม่เหล็กดูดติด มีคุณสมบัติทนทานการกัดกร่อนได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป และมีจุดเด่นคือ ราคาประหยัด กว่ากลุ่มออสเทนนิติกอย่างชัดเจน

• เกรดยอดนิยม: 430 (งานตกแต่งภายใน), 409 (ท่อไอเสีย)
• การใช้งานหลัก: เครื่องใช้ไฟฟ้า, อ่างล้างจาน, ชิ้นส่วนยานยนต์, งานตกแต่งที่ไม่ต้องการความทนทานสูงมาก

3. กลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic) - The Hard & Wear-Resistant

มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่ากลุ่มเฟอร์ริติก ทำให้สามารถนำไป ชุบแข็ง (Heat Treatment) เพื่อเพิ่มความแข็งและความทนทานต่อการสึกหรอได้สูงมาก แต่จะทนการกัดกร่อนได้น้อยลง และ แม่เหล็กดูดติด

• เกรดยอดนิยม: 410, 420, 440C (เกรดทำมีด แข็งที่สุด)
• การใช้งานหลัก: ใบมีด, เครื่องมือผ่าตัด, กรรไกร, ตลับลูกปืน (Bearing), ชิ้นส่วนวาล์ว

4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex) - The Strong & Corrosion-Resistant

เป็นสแตนเลสประสิทธิภาพสูงที่มีโครงสร้างผสมระหว่างออสเทนนิติกและเฟอร์ริติก ทำให้ได้คุณสมบัติเด่นคือ ทั้งแข็งแกร่งกว่า และทนทานการกัดกร่อน (โดยเฉพาะคลอไรด์) ได้ดีเยี่ยมกว่า กลุ่ม 300 Series ทั่วไป

• เกรดยอดนิยม: 2205, 2507
• การใช้งานหลัก: อุตสาหกรรมเคมี, น้ำมันและก๊าซ, โครงสร้างในพื้นที่ติดทะเล, โรงงานผลิตกระดาษ

5. กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก (Precipitation Hardening - PH)

เป็นกลุ่มที่มีความแข็งแรงสูงสุด สามารถเพิ่มความแข็งได้ด้วยกระบวนการทางความร้อน แต่ยังคงความสามารถในการทนการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุดโดยเฉพาะ

• เกรดยอดนิยม: 17-4PH (630)
• การใช้งานหลัก: ชิ้นส่วนอากาศยาน, เพลากำลังสูง, อุปกรณ์ทางการทหาร, แม่พิมพ์