ถอดรหัส "สแตนเลสทนเกลือ": ทำไมเกรด 316 คือคำตอบสำหรับงานชายทะเลและอุตสาหกรรมสุดโหด

อะไรคือ “สแตนเลสทนเกลือ” และแตกต่างจากเกรดทั่วไปอย่างไร?

"สแตนเลสทนเกลือ" เป็นชื่อเรียกที่มักจะหมายถึง สแตนเลสเกรด 316 (SUS316) และเกรดใกล้เคียงอย่าง 316L (Low Carbon) ซึ่งมีความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อนจาก "คลอไรด์" (Chloride) ได้ดีเยี่ยม ซึ่งคลอไรด์เป็นส่วนประกอบหลักของเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ที่พบได้ในน้ำทะเลและไอทะเล

ความลับที่ซ่อนอยู่ในสแตนเลส 316 คือ “โมลิบดีนัม” (Molybdenum)

หัวใจสำคัญที่ทำให้สแตนเลส 316 แตกต่างและเหนือกว่าสแตนเลสเกรด 304 ที่เราคุ้นเคยกันดี คือการเติมธาตุ โมลิบดีนัม เข้าไปในส่วนผสมประมาณ 2-3% ซึ่งเจ้าธาตุนี้เองที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชั้นยอด ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับชั้นฟิล์มโครเมียมออกไซด์ (Chromium Oxide) ที่ผิวของสแตนเลส ทำให้มันสามารถต้านทานการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting Corrosion) ซึ่งเป็นรูปแบบการกัดกร่อนที่น่ากลัวและมักเกิดจากคลอไรด์โดยเฉพาะ

เปรียบเทียบให้เห็นภาพ: สแตนเลส 304 vs 316

การใช้งานจริงของสแตนเลสทนเกลือ (เกรด 316)

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการต่อสู้กับการกัดกร่อนจากเกลือ ทำให้สแตนเลส 316 ถูกเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการความทนทานสูงเป็นพิเศษ เช่น:

1. อุตสาหกรรมทางทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง:

   code Code

   • อุปกรณ์บนเรือ: ราวกันตก, เสากระโดง, พุก, ใบพัด, สกรูและน็อตที่ต้องสัมผัสน้ำทะเลโดยตรง

   • สถาปัตยกรรม: โครงสร้างอาคาร, ราวระเบียง, ประตู, หลังคา ในพื้นที่ติดทะเล

   • ท่าเรือ: อุปกรณ์เทียบเรือ, โซ่, เสาไฟ

2. อุตสาหกรรมอาหารและยา:

   • โรงงานแปรรูปอาหารทะเล: โต๊ะทำงาน, สายพานลำเลียง, ถังผสม ที่ต้องสัมผัสเกลือและความชื้นตลอดเวลา

   • อุปกรณ์ผลิตยาและเคมีภัณฑ์: ถังปฏิกรณ์, ท่อลำเลียงสารเคมี ที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงและป้องกันการปนเปื้อน

3. สระว่ายน้ำ:

   • บันไดสระ, ราวจับ, อุปกรณ์ในระบบหมุนเวียนน้ำ ที่ต้องสัมผัสกับคลอรีน (ซึ่งเป็นสารประกอบคลอไรด์ชนิดหนึ่ง) ตลอดเวลา

สรุป: ลงทุนกับสแตนเลสทนเกลือ คุ้มค่าในระยะยาว

แม้ว่าสแตนเลสเกรด 316 จะมีราคาสูงกว่าเกรด 304 แต่เมื่อพิจารณาถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอย่างเห็นได้ชัด และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนใหม่ที่ลดลง การเลือกใช้ “สแตนเลสทนเกลือ” สำหรับงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายจึงเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและคุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ช่วยให้ชิ้นงานของคุณคงความสวยงาม แข็งแรง และปลอดภัยไปอีกนานหลายปี