สแตนเลส Food Grade คืออะไร?: คู่มือเลือกใช้เกรด 304 vs 316 ให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และยา ที่ซึ่งความสะอาดและความปลอดภัยของผู้บริโภคคือสิ่งสำคัญสูงสุด การเลือกใช้วัสดุที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรงจึงเป็นเรื่องที่ประนีประนอมไม่ได้ สแตนเลส Food Grade (Food Grade Stainless Steel) คือมาตรฐานทองคำของวัสดุที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ไม่ทำปฏิกิริยา และทำความสะอาดง่าย บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกสแตนเลส Food Grade ได้อย่างถูกต้อง

ไขข้อสงสัย: อะไรทำให้สแตนเลสเป็น "Food Grade"?

คำว่า "Food Grade" ไม่ได้หมายถึงสแตนเลสชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่หมายถึงสแตนเลสที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและปลอดภัยต่อการสัมผัสอาหาร ซึ่งคุณสมบัติสำคัญประกอบด้วย:

  • ทนทานต่อการกัดกร่อน: ไม่เกิดสนิมหรือผุกร่อนเมื่อสัมผัสกับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง
  • ไม่ทำปฏิกิริยา: ไม่ดูดซึม ไม่ปล่อยสารปนเปื้อน หรือทำปฏิกิริยาเคมีกับอาหาร ทำให้รสชาติ สี และกลิ่นของอาหารไม่เปลี่ยนแปลง
  • พื้นผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน: ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรค
  • ความแข็งแรงทนทาน: ทนต่ออุณหภูมิที่หลากหลาย ทั้งร้อนจัดและเย็นจัด โดยไม่เสื่อมสภาพ

โดยสแตนเลสเกรดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็น Food Grade และนิยมใช้มากที่สุดมี 2 เกรดหลัก คือ สแตนเลส 304 และ สแตนเลส 316

เปรียบเทียบชัดๆ: สแตนเลส 304 vs 316 เลือกใช้อย่างไร?

แม้ว่าทั้งสองเกรดจะเป็น Food Grade เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างสำคัญที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานคนละประเภท

  1. สแตนเลสเกรด 304 (SUS304):
    • ภาพรวม: เป็นเกรดที่นิยมใช้มากที่สุด อเนกประสงค์ และคุ้มค่า
    • เหมาะกับ: การแปรรูปอาหารทั่วไป, นม, เบียร์, อุปกรณ์ในครัว, โต๊ะเตรียมอาหาร, ภาชนะบรรจุที่ไม่สัมผัสเกลือหรือกรดเข้มข้น
    • ข้อควรระวัง: ไม่ทนทานต่อสารละลายคลอไรด์ (เกลือ) ในระยะยาว อาจเกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็มได้
  2. สแตนเลสเกรด 316 (SUS316):
    • ภาพรวม: เป็นเกรดที่ทนทานการกัดกร่อนสูงกว่า 304 อย่างมีนัยสำคัญ
    • ความลับคือ "โมลิบดีนัม": การเติมธาตุโมลิบดีนัมเข้าไป ทำให้เกรด 316 มีความสามารถในการทนเกลือและกรดได้ดีเยี่ยม
    • เหมาะกับ: การแปรรูปอาหารทะเล, การผลิตซอสปรุงรส, ผลไม้ดอง, ยา, และอุปกรณ์ที่ต้องล้างด้วยสารเคมีรุนแรงบ่อยครั้ง

HACCP สแตนเลส: ทำไม Food Grade ถึงจำเป็นต่อมาตรฐานความปลอดภัย

HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) คือระบบมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารที่เน้นการป้องกันอันตราย สแตนเลส Food Grade มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผ่านมาตรฐานนี้ เพราะ:

  • ป้องกันการปนเปื้อนทางกายภาพ: เนื้อสแตนเลสไม่แตกหักหรือผุกร่อนเป็นเศษโลหะปะปนในอาหาร
  • ป้องกันการปนเปื้อนทางเคมี: ไม่ปล่อยสารโลหะหนักหรือสารพิษออกมาเจือปนกับอาหาร
  • ป้องกันการปนเปื้อนทางชีวภาพ: พื้นผิวที่ทำความสะอาดง่ายช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นอันตราย

การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทำจากสแตนเลส Food Grade จึงเป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับโรงงานที่ต้องการการรับรองมาตรฐาน HACCP, GMP หรือมาตรฐานความปลอดภัยอาหารอื่นๆ

เลือกสแตนเลส Food Grade ที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ?

ไม่ว่าคุณจะต้องการถังผสม, โต๊ะทำงาน, หรืออุปกรณ์แปรรูปอาหารตามแบบ เรามีสแตนเลส Food Grade คุณภาพสูงทั้งเกรด 304 และ 316 พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดกับงบประมาณและการใช้งานของคุณ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา

Author Avatar
ผู้ดูแลระบบ

ผู้เชี่ยวชาญด้านสแตนเลสและโลหะอุตสาหกรรม ทีมงาน Trinity Dynamic พร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจของคุณ